รู้ว่าลูกค้าคุณมาจากไหนและมาช่วงใด ยกระดับยอดจองโรงแรมให้ปัง!

"การรู้ว่าลูกค้าส่วนใหญ่มาจากประเทศไหน และมาพักช่วงใด มีผลต่อกลยุทธ์การตลาด ยอดจอง และการวางแผนของโรงแรมอย่างไรบ้าง? มาดูแนวทางวิเคราะห์ข้อมูลลูกค้าเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานโรงแรมของคุณ"

ปรับกลยุทธ์การมองเห็น (Visibility) ให้ตรงกลุ่มเป้าหมายเพื่อกลยุทธ์ทางการตลาดโรงแรม

หลายโรงแรมมักมองข้ามข้อมูลเล็กๆ น้อยๆ เหล่านี้ไป แต่จริงๆ แล้ว การรู้ว่าลูกค้าส่วนใหญ่ของคุณมาจากประเทศไหน และนิยมมาพักในช่วงเวลาใด มีผลอย่างมากต่อทั้งยอดจองและประสิทธิภาพการบริหารงานของโรงแรม ลองมาดูกันว่าเหตุใดเรื่องนี้จึงสำคัญ และคุณสามารถเริ่มต้นทำอะไรได้บ้าง

 

เริ่มต้นจากการ “รู้จักโรงแรมของคุณเอง” ให้ดีก่อน 

สิ่งแรกที่คุณควรทำ คือ ทำความเข้าใจเอกลักษณ์ของโรงแรมตัวเองให้ชัดเจน โรงแรมของคุณมีสไตล์แบบไหน? ตั้งอยู่ในทำเลแบบใด? อยู่ใกล้แหล่งท่องเที่ยวประเภทไหน? การรู้จักจุดเด่น จุดขาย และข้อได้เปรียบด้านทำเล ถือเป็นพื้นฐานสำคัญที่จะช่วยให้คุณวิเคราะห์และเก็บข้อมูลลูกค้าได้แม่นยำขึ้น เพราะลูกค้าที่มักเลือกพักกับคุณ ย่อมสอดคล้องกับลักษณะของโรงแรมและทำเลนั้นๆ

1. Visibility (การมองเห็น)
   เมื่อคุณทราบว่ากลุ่มลูกค้าหลักของโรงแรมมาจากประเทศใด การปรับกลยุทธ์ด้าน Visibility หรือ การมองเห็น ให้สอดคล้องกับพฤติกรรมและความคาดหวังของลูกค้าจะช่วยเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงและตัดสินใจจองได้มากขึ้น ตัวอย่างเช่น
   • ช่องทางการตลาด
     หากลูกค้าหลักมาจากจีน ควรให้ความสำคัญกับแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียยอดนิยมของจีน เช่น WeChat และ Weibo มากกว่าโฟกัสเพียง Facebook หรือ Instagram ซึ่งอาจไม่ใช่ช่องทางหลักที่กลุ่มนี้ใช้งาน
   • ภาษา
     การจัดทำเว็บไซต์ ข้อมูลโรงแรม และสื่อประชาสัมพันธ์ใน ภาษาของลูกค้าเป้าหมาย เช่น จีน ญี่ปุ่น เกาหลี หรือภาษาในยุโรป จะช่วยให้ลูกค้าเข้าใจข้อมูลได้ง่ายขึ้น รู้สึกใกล้ชิด และตัดสินใจจองได้เร็วขึ้น
   • โปรโมชั่น
     ออกแบบโปรโมชั่นให้ตรงกับความต้องการของนักท่องเที่ยวจากประเทศนั้นๆ เช่น แพ็กเกจที่รวมกิจกรรมยอดนิยมของนักท่องเที่ยวชาวจีน หรือส่วนลดพิเศษในช่วงเทศกาลสำคัญของญี่ปุ่น สิ่งเหล่านี้ช่วยเพิ่มแรงจูงใจและสร้างความแตกต่างจากคู่แข่ง
      
2. วันหยุด (Public Holidays)
   การรู้ว่าลูกค้าหลักของคุณมาจากประเทศใด ช่วยให้คุณวางแผนเรื่อง วันหยุด ได้แม่นยำมากขึ้น
   • วันหยุดยาวของแต่ละประเทศ
     วันหยุดยาวในไทยอาจไม่ตรงกับวันหยุดยาวของประเทศอื่น การรู้ล่วงหน้าว่าวันหยุดยาวของจีน ญี่ปุ่น หรือยุโรป ตรงกับช่วงเวลาใด จะช่วยให้คุณคาดการณ์ปริมาณนักท่องเที่ยวได้แม่นยำ พร้อมทั้งจัดเตรียมความพร้อมของโรงแรมทั้งเรื่องห้องพัก พนักงาน และสิ่งอำนวยความสะดวกได้ทันเวลา
   • จัดโปรโมชั่นล่วงหน้า
     เมื่อคุณรู้ล่วงหน้าว่าวันหยุดยาวของแต่ละประเทศจะมาตอนไหน ก็สามารถวางแผนออกโปรโมชั่นเพื่อดึงดูดลูกค้าจากประเทศนั้นๆ ได้ก่อน ทำให้ได้เปรียบคู่แข่งและกระตุ้นยอดจองได้ก่อนใคร
      
3. วิธีหาข้อมูลลูกค้า แล้วจะหาข้อมูลเหล่านี้ได้จากที่ไหน? ลองใช้แหล่งข้อมูลเหล่านี้ครับ
   • ระบบ PMS (Property Management System)
     ระบบจัดการโรงแรมส่วนใหญ่จะเก็บข้อมูลการจองของลูกค้าอยู่แล้ว คุณสามารถดึงข้อมูลสัญชาติของลูกค้าที่เคยเข้าพักมาวิเคราะห์แนวโน้มได้
   • Online Travel Agencies (OTAs)
     แพลตฟอร์ม OTA เช่น Agoda, Booking.com, Expedia มักมีรายงานสถิติลูกค้าที่จองผ่านพวกเขาให้คุณดูได้เช่นกัน
   • แบบสอบถาม
     คุณสามารถจัดทำแบบสอบถามสั้นๆ ให้ลูกค้ากรอกตอนเช็คอินหรือเช็คเอาต์ เพื่อเก็บข้อมูลเพิ่มเติม เช่น พวกเขารู้จักโรงแรมของคุณจากช่องทางไหน หรือเหตุผลที่เลือกมาพักคืออะไร
   • Google Analytics
     ถ้าโรงแรมของคุณมีเว็บไซต์ ข้อมูลจาก Google Analytics ก็สามารถช่วยบอกได้ว่าผู้เยี่ยมชมเว็บไซต์มาจากประเทศใดบ้าง
      
4. ประเมินผลลัพธ์ (Evaluate the Impact)
   หลังจากนำข้อมูลและคำแนะนำเหล่านี้ไปปรับใช้ อย่าลืมประเมินผลลัพธ์ด้วย
   • เปรียบเทียบยอดจอง
     ตรวจสอบว่ายอดจองของคุณเพิ่มขึ้นมากน้อยแค่ไหนเมื่อเทียบกับก่อนปรับแผน  
   • ประสิทธิภาพการดำเนินงาน
     การรู้ข้อมูลลูกค้าช่วยให้คุณวางแผนเรื่องจำนวนพนักงาน สต็อกสินค้า และบริการต่างๆ ได้ดีขึ้นหรือไม่  
   • ความพึงพอใจของลูกค้า
     ดูรีวิวของลูกค้าว่ามีเสียงตอบรับดีขึ้นหรือไม่ ลูกค้าพึงพอใจมากขึ้นจากการบริการและประสบการณ์ที่ได้รับหรือเปล่า

 

THRev.co (@ธา ซิตี้ ลอฟท์)
📍 2 ซอย เอกมัย 6 ถนน สุขุมวิท 63 แขวงพระโขนงเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพฯ 10110

📞 Tel: +6685 010 9291 (คุณต้า)
📧 E-mail: weyield@threv.co
🔗 Line: @threv
📘 Facebook: THRev.co